หลายวันผ่านไป…..หน้าเพื่อนที่เมื่อก่อนยิ้มแย้มสนุกสนาน….ก็ค่อยๆลดหายไป….เนื่องจากคิดๆ ว่าจะจัดการหนี้ได้อย่างไร ดอกเบี้ยก็เดินทุกวัน รู้ยังนี้ไม่ใช้ให้มากมายขนาดนี้ก็ดี คำว่า “รู้ยังนี้……..” เป็นคำที่ผมเองก็ได้ยินบ่อยมากๆ แต่คนเราไม่สามารถรู้ได้ล่วงหน้ามีแต่จะคาดการณ์ได้ล่วงหน้าด้วยการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากปัจจุบันเท่านั้นเอง…สิ่งที่ผมและเพื่อนคนอื่นช่วยเพื่อนผมคนนี้ได้คือสมหัวช่วยกันหาทางออก สิ่งที่คิดได้คือให้เขาประหยัดครับ จากนั้นก็กันเงินไว้ส่วนหนึ่งทยอยจ่าย..แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าไรนักในที่สุดผู้จัดการที่พวกผมสังกัดอยู่ก็สังเกตเห็นเขาและเรียกไปคุยครับ พี่ผู้จัดการท่านนี้เป็นคนเก่งมากๆ ในสายตาพวกผมขณะนั้น และเขาก็ได้ให้ขั้นตอนพร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ โดยมีขั้นตอนเท่าที่ผมจำได้ประมาณนี้ครับ
- ทำรายการหนี้ที่มีทั้งหมดออกมาก่อนโดยเรียงลำดับจากหนี้ก้อนเล็กไปหาก้อนใหญ่ โดยพี่เขาย้ำมากว่าต้องเอามาให้หมดไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต เงินด่วน เงินกู้นอกระบบ อีกอะไรเอามาแฉให้หมด ตอนนั้นเพื่อนผมคนนี้ทำรายการออกมาได้น่าจะประมาณ 10 รายการได้ ตอนนั้นเราคิดว่าเขาไปทำบัตรได้ครบเกือบทุกยี่ห้อที่มีในตลาดมาได้มากขนาดนี้ได้ยังไงเนี่ย
- ทำรายการรายรับและรายจ่ายประจำวันที่นอกเหนือจากที่ต้องจ่ายบัตรเครดิตหรือหนี้ต่างๆ ที่มีทั้งหมดออกมา ตัวอย่างรายการพวกนี้เช่น ค่าข้าว ค่าเช่าห้อง ค่าเดินทางในการมาทำงาน
- นำรายจ่ายมาวิเคราะห์ เรามารู้ข้อมูลเพิ่มเติมของเพื่อนผมคนนี้กันอีกหน่อยเพื่อที่จะได้ช่วยกันมองให้เห็นเป็นภาพเดียวกันดีมั้ยครับ เดิมเช่าหอในแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ซึ่งเป็นหอที่อยู่มาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ที่ทำงานอยู่แถวฝั่งธน ต้องนั่งรถมาไกลพอควรวันไหนที่ตื่นสายก็ต้องนั่ง Taxi มาทำงาน เรื่องอาหารการกินนั้นไม่ค่อยยุ่งยากมากนักก็มักจะกินข้าวในโรงอาหารที่บริษัทจัดไว้ให้ราคาทั่วไปครับ จานหนึ่งประมาณ 25-30 บาท จะมีก็ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ทั้งแก็งมักจะออกไปสังสรรค์ตามที่ต่างๆ เกือบทุกสัปดาห์ อ้อและเขายังไม่มีแฟนทำให้ตัดเรื่องค่า Shopping ของแฟนออกไปได้อีกหน่อยครับ
- การจำกัดรายจ่าย สิ่งที่พี่ผู้จัดการบอกให้เขาทำอย่างแรกคือให้ย้ายหอจากที่เดิมมาอยู่ใกล้บริษัทแทน เอาแบบเดินมาทำงานได้ยิ่งดีอันนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จากนั้นก็ งด! การสังสรรค์ทุกประเภท
วันนี้มาครึ่งทางก่อนนะครับ….เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่ออีกครึ่งทางที่เหลือครับผม…